Thursday, 11 April 2024

“ปิ๊กมี่”ชนเผ่าร่างจิ๋ว

20 Dec 2022
298

"ปิ๊กมี่"ชนเผ่าร่างจิ๋ว

หากกล่าวถึงชนเผ่าโบราณแล้ว ชนเผ่าปิ๊กมี่ก็เป็นชนเผ่าหนึ่งที่ถือได้ว่า มีความเป็นมาอันยาวนาน และยังคงมีลูกหลานสืบเผ่าพันธุ์กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ เรื่องราวของชนเผ่าปิ๊กมี่จะเป็นเช่นใด ตาม iqnect หาคำตอบได้ใน “ปิ๊กมี่” ชนเผ่าร่างจิ๋ว

ชาวปิ๊กมี่อยู่ที่ใด

"ปิ๊กมี่"ชนเผ่าร่างจิ๋ว

ชนเผ่าปิ๊กมี่เป็นชนเผ่าที่เก่าแก่มาก เป็นรองแต่เพียงพวกกอยซานเท่านั้น ชาวปิ๊กนี่สืบเชื้อสายตรงมาจากมนุษย์โบราณ ซึ่งเป็นนักล่าสัตว์โดยคาดว่าพวกเขาสืบทอดเผ่าพันธุ์กันมานานถึงเจ็ดหมื่นปีแล้ว และตั้งรกรากอยู่บริเวณทวีปแอฟริกากลาง โดยสามารถแบ่งชาวปิ๊กนี่ออกเป็นสามกลุ่มตามภูมิประเทศ กล่าวคือกลุ่มที่หนึ่งอาศัยอยู่บริเวณแอฟริกากลาง กาบอง และคาเมรูน กลุ่มที่สองอาศัยอยู่ที่คองโก กลุ่มที่สามอยู่บนที่ราบสูงที่อูกันด้าและลาวา คําว่า ปิ๊กมี่ มาจากภาษากรีกที่มีความหมายว่า คนขนาดเท่ากําปั้น เป็นกลุ่มชนในกลุ่มนายกลอยมีการกล่าวถึง ปิ๊กนี่ มาตั้งแต่สามปีก่อนคริสตกาล โดยปรากฏอยู่ในเรื่องราวของอารยธรรมอียิปต์ ส่วนมหากวีโฮมเมอร์ก็กล่าวถึงปิ๊กนี่เอาไว้ในมหาวรรณกรรมอิเลียสของเขา รวมถึงอลิสโตเติ้นก็เคยได้กล่าวเอาไว้ในทํานองที่ว่า ก็คือมนุษย์เช่นกัน เมื่อมีคํากล่าวถึงชาวปิ๊กนี่ จากบุคคลสําคัญของโลกเช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี ถึงความเป็นมาอันยาวนานของพวกเขา ชาวปิ๊กนี่มีภาษาพูดเป็นของตนเอง ได้อยู่ในกลุ่มภาษาบันทู แต่ดังนั้นก็ยังไม่มีภาษาเขียน จึงทําให้พวกเขานั้นไม่สามารถบันทึกเรื่องราวต่างๆที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเอาไว้ได้ นอกจากนั้นพวกเขาก็ไม่มีระบบการนับเลขอีกด้วย ทําให้พวกเขาไม่รู้แม้กระทั่งอายุของตัวเอง

ลักษณะทางกายภาพของชาวปิ๊กนี่

"ปิ๊กมี่"ชนเผ่าร่างจิ๋ว

ลักษณะที่โดดเด่นและถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวปิ๊กนี่ก็คือ รูปร่างที่เล็กและเตี้ยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับชนเผ่าอื่นในทวีปแอฟริกาและชาติพันธุ์อื่นๆ นอกจากนั้นศีรษะก็โต ขาสั้น จมูกแบน สะดือจุ่นและถึงแม้ว่าพวกเขาจะผอม แต่ก็มีลักษณะพุงโต หรือพุงโล ส่วนความสูงโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่หนึ่งร้อยยี่สิบถึงหนึ่งร้อยสามสิบเซนติเมตรเท่านั้น แม้จะมีบางคนที่สูงกว่านี้ แต่ก็สูงไม่เกินหนึ่งร้อยสี่สิบเซนติเมตรและมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยไม่เกินห้าสิบกิโลกรัม โดยสาเหตุที่ชาวปิ๊กนี่มีรูปร่างเล็กจนถือได้ว่าแคระแกนเช่นนี้ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาว่าน่าจะเกิดจากการที่ชาวปิ๊กนี่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับแสงแดดน้อยร่างกายจึงไม่สามารถสร้างวิตามินดีได้เพียงพอ จึงมีผลต่อการดูดซึมแคลเซียม ร่างกายของพวกเขาจึงเตี้ยเช่นนี้ แต่ในเวลาต่อมานักพันธุศาสตร์ก็ตั้งข้อสมมติฐานขึ้นมาใหม่ว่า สาเหตุที่ชาวปิ๊กมี่มีรูปร่างแคระแกน

"ปิ๊กมี่"ชนเผ่าร่างจิ๋ว

ก็เนื่องมาจากว่าพวกเขานั้นมีความผิดปกติของโคโมโซมคู่ที่สิบสอง ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการหลั่งโกรทฮอร์โมน เนื่องจากว่าแม้ชาวปิ๊กมี่จะมีรูปร่างเช่นนี้ แต่ก็มีร่างกายที่สมส่วนแตกต่างจากคนแคระ นอกจากชาวปิ๊กมี่จะมีรูปร่างที่เล็กมากแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นลักษณะเฉพาะสําหรับชนเผ่านี้ก็คือพวกเขาเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และให้กําเนิดบุตรได้เมื่อมีอายุเพียงแปดหรือเก้าปีเท่านั้น ซึ่งก็จะสัมพันธ์กับการที่พวกเขามีอายุขัยเฉลี่ยเพียงสี่สิบปี แม้ว่าชาวปิ๊กนี่จะอายุสั้นแต่พวกเขานั้นกลับมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีมากกว่าชนชาติอื่นๆ ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาต้องอยู่ในพื้นที่เขตร้อนอันเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บธรรมชาติจึงต้องสร้างให้ร่างกายของพวกเขานั้นมีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ดังนั้นแล้วในร่างกายของชาวปิ๊กนี่ จึงอาจจะมีความลับของระบบภูมิคุ้มกันที่ซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์นั้นสามารถนํากลไกเหล่านี้มาพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของพวกเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็เป็นได้

ความสัมพันธ์ของปิ๊กมี่ที่ประเทศอินโดนีเซีย กับ Homo floresiensis หรือ มนุษย์ฮอบบิท

เมื่อปีสองพันสี่มีการค้นพบโครงกระดูกของ โฮมินิคส์ สายพันธุ์ใหม่ที่ถ้ำเหลีองบัว บนเกาะฟรอเร็ท ประเทศอินโดนีเซีย โดยโครงกระดูกนี้เป็นของสตรีวัยผู้ใหญ่ แต่มีความสูงเพียงหนึ่งจุดศูนย์หกเมตร หรือสามจุดห้าฟุตเท่านั้น บรรดานักวิทยาศาสตร์จึงตั้งสมมติฐานขึ้นว่า โฮมินิคส์ สายพันธุ์ใหม่นี้อาจจะมีความเกี่ยวพันกับชาวปิ๊กมี่แรมพาซาซ่า หรือคนตัวเล็ก ซึ่งตั้งถิ่นฐานอยู่ใกล้กับถ้ำเหลียงบัว ด้วยปิ๊กมี่ที่แรมพาซาซ่านี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับชาวปิ๊ดมี่ที่ทวีปแอฟริกา แต่การใช้คําว่าปิ๊กมี่กับผู้ที่มีรูปร่างเตี้ยบนเกาะฟรอเร็ท ก็เพื่อเป็นการสื่อถึงรูปร่างเช่นนี้ของพวกเขาเท่านั้น นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อของโฮมินิคส์ สายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบในถ้ำเหลียงบัวว่าโฮโมฟลอเรนเซนซิส หรือในบางครั้งก็เรียกว่ามนุษย์ฮอบบิท ตามชื่อของตัวละครเผ่าพันธุ์หนึ่งในมหากาพย์วรรณกรรม เรื่อง The Lod of the Rings นาย Richard E-Green นักชีววิทยาด้านสารสนเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ร่วมทําการวิจัยกับทีมวิจัยนานาชาติ เพื่อทําการพิสูจน์ว่า โฮโมฟลอเรนเซนซิส จะมีความเกี่ยวข้องทางพันธุกรรมกับชาวปิ๊กนี่แรมพาซาซ่า

"ปิ๊กมี่"ชนเผ่าร่างจิ๋ว

ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับถ้ำเหลีองบัวหรือไม่ ซึ่งหากพบมีความเกี่ยวข้องกันแล้ว ก็เท่ากับว่า โฮโมฟลอเรนเซนซิส หรือมนุษย์ฮอบบิทนั้น สามารถสืบทอดเผ่าพันธุ์มาได้จนถึงปัจจุบันนี้ ส่วนชาวปิ๊กมี่พาแรมพาซาซ่าเอง ก็เชื่อมั่นว่า พวกตนนั้นสืบเชื้อสายมาจากมนุษย์ฮอบบิทการวิจัยเป็นไปอย่างเข้มข้น ด้วยการเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ จากน้ำลายของชาวปิ๊กมี่แรมพลาซาซ่า จํานวนสามสิบสองคน และทีมนักวิจัยนําตัวอย่างของ DNA ไปวิเคราะห์กับข้อมูลทางพันธุกรรมของประชากร สองร้อยยี่สิบห้าคน จากประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออก มาเลเซีย อินโดนีเซียเป็นต้น ซึ่งผลของการวิจัยก็ออกมาว่าไม่พบดีเอ็นเอของฮอร์โมนหรือมนุษย์เลย แต่กลับทําให้รู้ว่าชาวปิ๊กนี่แรมพาซาซ่านั้น สืบเชื้อสายมาจากผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบเออร์เชียเนีย และเอเชียตะวันออก นอกจากนั้นก็ยังพบร่องรอยดีเอ็นเอของมนุษย์นีแอนเดอร์ทอล และมนุษย์เดนิโซวันอีกด้วย ดังนั้นแล้วจึงสรุปได้ว่าชาวปิ๊กมี่แรมพาซาซ่าในอินโดนีเซียนั้นไม่ได้สืบเผ่าพันธุ์มาจากมนุษย์ ส่วนสาเหตุที่ชาวบนเกาะฟรอเร็ทมีรูปร่างที่คล้ายกันเช่นนี้นั้นหนึ่งในทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยคริสตัล ได้กล่าวเอาไว้ว่า น่าจะเกิดจากการขาดสารอาหารและทรัพยากรอันจําเป็นต่างๆ รวมถึงภัยจากบรรดาสัตว์นักล่าทั้งหลายที่ทําให้การเจริญเติบโตของชาวปิ๊กมี่เป็นไปเช่นนี้

สนับสนุนการจัดทำโดย ufa1688