
นอกจากในแผ่นดินจีนจะมีเรื่องราวที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เกิดขึ้นหลายเรื่องแล้ว ก็ยังมีเรื่องราวของเทพเจ้า ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าสามารถบันดาลความสำเร็จให้กับตนได้อยู่หลายองค์ โดยที่แต่ละองค์ก็มีฤทธิ์ในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันไป เทพเจ้าเหล่านั้นจะมีพระองค์ใดบ้าง มาหาคำตอบได้ในตำนานเทพเจ้าจีนกับ
iqnect กัน
เทพเจ้าฮก ลก ซิ่ว

เทพเจ้าทั้งสามองค์คือฮก ลก ซิ่ว นั้นน่าจะเป็นเทพเจ้าที่คนไทยเราคุ้นเคยกันมากที่สุด เนื่องจากเป็นเทพเจ้าที่เกี่ยวกับโชคยศสะและความมีอายุยืน เทพเจ้าฮก คำว่าฮกนั้นมีความหมายถึงโชคลาภและความมั่งคั่ง เทพเจ้าองค์นี้สวมหมวกมีเส้าข้างหลังสูง แต่งกายแบบเศรษฐีและมักอุ้มเด็กไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ซึ่งเด็กผู้นี้ก็จะเป็นเด็กผู้ชาย

เนื่องจากมีความหมายถึงการสืบทอดวงศ์ตระกูล เทพเจ้าลก คําว่าลกนั้นมีความหมายถึงบุญวาสนาเกียรติยศและอํานาจ ดังนั้นแล้วเทพเจ้าลกจึงแต่งกายแบบขุนนางระดับอัครเสนาบดี สวมหมวกที่มีปีกกางออกไปทั้งสองข้าง มือถือ
คฑายู่อี

ซึ่งเป็นคฑาแห่งความสมปรารถนา เทพเจ้าซิ่ว คําว่าซิ่วนั้นมีความหมายว่าอายุยืน ดังนั้นแล้วเทพเจ้าซิ่วจึงมีรูปลักษณ์เป็นชายชราศีรษะล้าน ใบหน้าใจดี หนวดเคราสีขาวยาว มือหนึ่งถือไม้เท้าอีกมือหนึ่งก็มีผลท้อวางอยู่บนฝ่ามือ

แม้ว่าเทพเจ้าฮก ลก ซิ่วจะเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนนับถือมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้กราบไหว้เทพทั้งสามองค์นี้ แต่นํามาประดับบ้านในลักษณะที่เป็นตุ๊กตากระเบื้องหรือภาพวาด เพื่อเป็นมงคลยกเว้นในงานแซยิด ซึ่งก็คืองานทําบุญใหญ่เมื่ออายุครบหกสิบปี ซึ่งชาวจีนจะนํารูปหรือตุ๊กตาของเทพฮก ลก ซิ่วมาเป็นประธานในพิธี
โป๊ยเซียน

แม้ว่าโป๊ยเซียนจะไม่ใช่เทพเจ้าก็ตามแต่ก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มเซียนที่ชาวจีนให้การเคารพมาก คําว่าโป๊ยเซียนนั้นมีความหมายว่าเซียนทั้งแปด

ซึ่งก็คือ ทิก๋วยลี้ มีรูปลักษณ์เป็นชายขาพิการข้างหนึ่ง ถือไม้เท้า สะพายน้ำเต้าวิเศษเป็นเซียนที่ช่วยบันดาลให้มีสุขภาพที่แข็งแรง

ฮั่งเจงหลีมีรูปลักษณ์เป็นชายร่างอ้วนสวมเสื้อที่เปิดจนเห็นหน้าท้อง ขมวดผมเป็นก้อนอยู่สองข้างศรีษะ เครายาวถึงหน้าท้อง ถือพัดหรือแช่ปัดยุงเป็นเซียนแห่งความกล้าหาญ

ลื่อทงปินมีรูปลักษณ์เป็นชายร่างกายสูงใหญ่ กระหม่อมสูง คิ้วและตายาวแบบตาหงส์ คิ้วซ้ายมีไฝ จมูกใหญ่ แก้มอิ่ม ปากกว้าง สะพายกระบี่วิเศษไว้ที่ด้านหลังเป็นเซียนแห่งสติปัญญาที่มีคารมคมคาย

เจียงกั๋วเล้ามีรูปลักษณ์เป็นชายชรา หนวดเครายาวสีขาว ถือเครื่องดนตรีที่เรียกว่ายูกุซึ่งทํามาจากไม้ไผ่กับไม้ตีอีกสองอันเป็นเซียนผู้ชนะความชรา

น่าไชหัวเป็นชายหนุ่มรูปงาม นิสัยร่างเริงแจ่มใสถือกระเช้าดอกไม้ซึ่งเต็มไปด้วยดอกเบญจมาศ ดอกไหน กิ่งสนและใบไผ่ แต่ในบางครั้งน่าไชหัวก็เป็นสตรีเป็นเซียนที่เชี่ยวชาญในการร้องเพลง

ฮ่อเซียนโกวเป็นสตรีเพียงคนเดียวในคณะเซียนทั้งแปด นางมีรูปงาม ถือดอกบัวแต่ในบางครั้งก็เป็นผลท้อหรือแซ่เป็นเซียนที่เกี่ยวกับความงาม

ฮั่นเซียนจื๊อเป็นบุรุษรูปงามมีความสามารถมากทางด้านดนตรีโดยเฉพาะขลุ่ย ซึ่งบทเพลงของฮั่นเซียนจื๊อนั้นสามารถทําให้ต้นไม้ออกดอกออกผลได้ตามต้องการเป็นเซียนที่ให้ความช่วยเหลือนักดนตรีและศิลปิน

เซาก๊กกู๋เป็นชาชราสวมชุดของขุนนางถือกระพวงและเป็นเจ้าของเข็มขัดวิเศษที่สามารถทําให้น้ำแยกออกจากกันได้เป็นเซียนผู้อุปถัมภ์นักแสดงและการแสดงต่างๆ
What are the Origins of the Gundam Aerial?
The origins of the Gundam Aerial can be traced back to the rich gundam aerial history. This iconic mobile suit concept first appeared in the popular Japanese science fiction anime series, Mobile Suit Gundam. Created by Yoshiyuki Tomino, the Gundam Aerial marked a significant evolution in the franchise, showcasing the introduction of aerial combat capabilities to the mecha suits. With its roots deeply embedded in gundam aerial history, this innovative concept has captivated fans worldwide.
เทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี๊ย

ไฉ่สิ่งเอี๊ยหรือไฉ่เฉินเป็นเทพเจ้าแห่งโภคทรัพย์ โดยเมื่อครั้งที่ยังเป็นมนุษย์นั้นเทพเจ้าไฉ่สิ่งเอี๊ยมีชื่อว่าปี่กานมีสถานะเป็นชนชั้นปกครองเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมใน
ราชวงค์ซาง วันหนึ่งปี่กานไปตําหนิโจ้หวังผู้เป็น
ทรราชและเป็นญาติกับเขา โจ้หวังจึงสั่งให้จับปี่กานไปแหวกอกแล้วควักหัวใจออกมาเพื่อดูว่าปี่กานมีรูเจ็ดรูที่หัวใจดังที่ชาวจีนเชื่อว่าผู้เป็นปราชญ์จะมีรูเจ็ดรูที่หัวใจจริงหรือไม่? ซึ่งปี่กานก็ต้องเสียชีวิตไปในเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่ด้วยคุณความดีของเขาปี่กานก็ได้กลายไปเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนให้การเคารพสักการะในฐานะที่เป็นไฉ่สิ่งเอี๊ยเทพเจ้าแห่งโภคทรัพย์ โดยชาวจีนจะทําพิธีไหว้ในวันที่ยี่สิบเดือนเจ็ดตามปฏิทินทางจันทรคติ
สนับสนุนการจัดทำโดย
ufa747