คุณคงรู้จัก Heineken เบียร์ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมไปทั่วโลก และในวันนี้ iqnect เราจะพาคุณมาพบกับเรื่องจริงของ Heineken (ไฮเนเก้น) ที่คุณยังไม่รู้
ที่มาของ Heineken (ไฮเนเก้น)
ย้อนกลับไปในปีหนึ่งแปดหกสามนาย เจอร์ราด อาเดรียน ไฮเนเก้น ได้พบกับใบประกาศขายโรงหมักเบียร์แห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าเฮสแตกในกรุง Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ เขาที่สนใจกิจการนี้เป็นอย่างมากจึงได้ไปปรึกษาแม่แล้วได้เข้าซื้อกิจการนี้ในปีถัดมา ทําให้เขากลายเป็นเจ้าของโรงหมัดเบียร์ได้วัยเพียงยี่สิบสองปีเท่านั้น และต่อมาเขาก็ได้พยายามปรับปรุงรสชาติของเบียร์เพื่อให้ได้มา ซึ่งรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนกระทั่งในปีหนึ่งแปดเจ็ดสาม เขาได้จ้างดอกเตอร์อิลเลี่ยนที่เป็นลูกศิษย์ของหลุยต์ ปาสเตอร์ในการคิดค้นยีสต์สูตรพิเศษที่มีชื่อว่า Hinegen Ayes ซึ่งมันก็ทําให้เบียร์ของพวกเขามีรสชาติที่ดีมากมาก นั่นจึงได้ทําให้นาย Gerrard เปลี่ยนชื่อโรงเบียร์เป็น HDM และได้ให้กําเนิดเบียร์ที่มีชื่อว่า Heineken ขึ้นมาอย่างเป็นทางการนั่นจึงได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์อันยาวนานของเบียร์ Heineken
ความหมายของดาวสีแดงของ Heineken (ไฮเนเก้น)
แม้กระทั่ง Heineken เองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เจ้าดาวสีแดงดวงนี้มันมีที่มาอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นทาง Heineken ก็ได้เปิดเผยถึงความหมายที่เป็นไปได้มากที่สุดสามอย่างด้วยกัน อย่างแรกเป็นผลมันถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของโรงหมักเบียร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง เพราะพวกเขามีความเชื่อว่ามันจะสามารถปกปักรักษาโรงหมักเดียวของพวกเขาได้ และความเป็นไปได้อย่างที่สองก็คือ แฉกของดวงดาวแต่ละแฉกเป็นตัวแทนของดิน น้ำ ลม ไฟ และสิ่งที่เราไม่รู้ ความเป็นไปได้อย่างสุดท้าย คือในยุคสมัยก่อนผู้คนมักใช้ตําแหน่งของดวงดาวที่อยู่บนประตูหน้าของโรงหมักเป็นตัวบอกว่าในตอนนี้พวกเขาหมัดเบียดถึงขั้นไหนแล้ว
ดาวสีขาวของ Heineken (ไฮเนเก้น)
แน่นอนว่าในช่วงที่เกิดสงครามและและบริษัทต่างๆ ต่างก็ได้รับผลกระทบกันทั้งนั้นและในกรณีของ Heineken เองก็เช่นเดียวกันโดยที่ในปีหนึ่งเก้าห้าหนึ่งที่เป็นช่วงเวลาของสงครามเย็นพวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงจากเดิมที่เป็นดาวสีแดงไปเป็นโลโก้รูปดาวสีขาวขอบสีแดงแทน ซึ่งเหตุผลก็เป็นไปเพราะต้องการหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่ผู้คนอาจนําเอาไปเชื่อมโยงกับรัฐที่คอมมิวนิสต์นั่นเอง
Heineken (ไฮเนเก้น) เป็นผู้ผลิตอันดับ 2 ของโลก
นอกจากประวัติศาสตร์อันแสนยาวนาน Heineken ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีการเติบโตที่ดีมากๆเช่นเดียวกัน ซึ่งหนึ่งในวิธีสร้างความเติบโตก็คือการเข้าซื้อบริษัทอื่นๆ ซึ่งการเข้าซื้อกิจการครั้งสําคัญและเด่นชัดก็คือการเข้าซื้อบริษัทผู้ผลิตเบียร์อย่างสก็อตติช แอนด์นิวคาสเซิล ในปีสองพันเจ็ด ซึ่งในการซื้อกิจการในครั้งนี้ก็ได้ทําให้ไฮเนเก้นกลายเป็นผู้ผลิตเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สามของโลก และอีกครั้งหนึ่งในปีสองพันสิบกับการเข้าซื้อธุรกิจเบียร์ของบริษัท FAMZA ในเม็กซิโก ทําให้พวกเขาสามารถขยายช่องทางการจัดจําหน่ายไปยังประเทศแถบละตินอเมริกาได้ และยังเป็นส่วนสําคัญที่ไฮริเก้นกลายเป็นผู้ผลิตเบียร์อันดับสองของโลกเป็นรองเพียงแค่ Huls Butt เท่านั้น
แบรนด์ต่างๆของพวกเขา, Heineken (ไฮเนเก้น)
เมื่อพูดถึง Heineken คนส่วนใหญ่อาจจะนึกถึงเบียร์ขวดสีเขียวกับรูปดาวสีแดง แต่คุณทราบไหมครับว่า จริงๆแล้วบริษัทไฮเนเก้นนั้น พวกเขาครอบครองเบียร์แบรนด์ต่างๆมากกว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบแบรนด์ที่ได้มีการจัดจําหน่ายในพื้นที่ต่างๆทั่วโลกและมันก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อพวกเขาเข้าซื้อบริษัทอื่นเพิ่มเติมในอนาคต
พิพิธภัณฑ์ Heineken (ไฮเนเก้น)
สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ถูกสร้างขึ้นมาในปีหนึ่งแปดเจ็ดหก ในฐานะของโรงผลิตเบียร์ของ Heineken แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนลงผลิตแห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูล ก่อนที่มันจะถูก renovate อีกครั้งในปีสองพันหนึ่ง เพื่อทําให้มันพิพิธภัณฑ์ที่พวกเขาใช้ชื่อว่า Heineken Experience ซึ่งภายในก็จะอัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานของ Heineken มีตั้งแต่การจัดแสดงขวดเบียร์ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ไปจนถึงการสาธิตขั้นตอนการผลิตเบียร์ เรียกได้ว่าคุณจะได้ซึมซับความเป็นเข้าไปเต็มๆและหากคุณมีโอกาสไปเที่ยวที่อัมสเตอร์ดัม ไฮเนเก้น เอ็กซ์พีเรียนแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด
Heineken World Bottle (ไฮเนเก้น)
Heineken World Bottle (ไฮเนเก้น) ถือว่าเป็นขวดเบียร์โฉมหนึ่งของ Heineken ที่มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ โดยเริ่มต้นจากการที่นายเฟดดี้ ไฮเนเก้น ได้เดินทางไปที่ประเทศคูราเซาในแถบทะเลแคลิน แล้วเขาก็พบว่า ชาวบ้านแถวนั้นมีการนําเอาขวดแก้ว มาก่อเป็นกําแพงหรือผนังบ้าน และมันก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้มีการออกแบบขวด Heineken World Bottle ขึ้นมาในปีหนึ่งเก้าหกสามโดยมันเป็นขวดที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยม มีผิวขรุขระสองด้าน ที่ช่วยทําให้ขวดและซีเมนต์ยึดเกาะกันได้ดีขึ้น มีรูบุ๋มที่ก้นขวด ที่ช่วยให้เรียงขวดต่อกันได้ดีขึ้น และแม้ว่าโปรเจ็คขวดตัวนี้จะต้องหยุดชะงักลงเพราะไม่ได้รับการสนับสนุนจากคนภายในบริษัท แต่ในปัจจุบันก็ยังคงมีกําแพงจากบ้านตัวอย่าง จะแสดงเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ Heineken Experience เพื่อเป็นตัวบอกเล่าถึงความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาในอดีต
สนับสนุนการจัดทำโดย ufacash888