Tower of London หอคอยแห่งอังกฤษ พระราชวังหลวงเก่าแก่ที่สําคัญของอังกฤษ หากใครได้ไปเที่ยวลอนดอน ที่นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวแรกๆที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่ฟ้ามืดลงนักท่องเที่ยวเริ่มซาประตูต่างๆปิดเงียบสนิท Tower of London กลับกลายเป็นหอคอยสุดเฮี้ยนที่หลายคนจะเชื่อกันว่า ผีดุที่สุด วันนี้ iqnect จะมาพูดถึง5เรื่องชวนหลอนเกี่ยวกับลอนดอนหอคอยสุดเฮี้ยนแห่งอังกฤษ
1.ที่มาของเรื่องผีสุดเฮี้ยน
Tower of London เคยเป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าวิลเลี่ยมที่หนึ่งแห่งอังกฤษ เมื่อปีคริสตัลหนึ่งพันเจ็ดสิบแปด ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ของกรุงลอนดอน ความสวยและสง่างามของพระราชวังหลวงแห่งนี้มาจากการก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนส หอคอยแห่งลอนดอนภายในมีหอคอยกว่ายี่สิบแห่งและอาคารหลังใหญ่อีกหลายหลัง ภายในวงล้อมของกําแพงอันแข็งแกร่งสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต่อต้านชาวนอมัน และการป้องกันลอนดอนจากการลุกลานของข้าศึกจากภายนอก ที่นี่ใช้เป็นพระราชฐานมาจนถึงพระเจ้าชาลที่หนึ่ง จนกระทั่งถึงช่วงเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของอังกฤษจึงมีคําสั่งให้รื้อส่วนที่เป็นพระราชวังทิ้งไป แม้หอคอยแห่งนี้ถูกสร้างมากว่าพันปีแล้ว แต่ความสง่างามก็ยังคงอยู่ ความเป็นโบราณสถานเก่าแก่ และเคยผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มามากมายและยังเคยใช้เป็นป้อมที่ขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง ขุนนางต่างๆรวมถึงยังเป็นสถานที่สําหรับประหารชีวิตและทรมานนักโทษ ทําให้หอคอยแห่งนี้มีเสียงร่ำลือกันในเรื่องของการพบเจอวิญญาณอยู่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วิญญาณขุนนางไปจนถึงวิญญาณอาฆาตสุดสยองขวัญ2.วิญญาณเจ้าชายที่ Bloody tower
Bloody tower หรือหอคอยเลือด เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างของหอคอยแห่งลอนดอนเคยมีประวัติเล่าว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ห้าและเจ้าชายริชาร์ด ดยุกแห่งยอร์ก สองพี่น้องผู้สืบทอดราชบัลลังก์อังกฤษได้หายตัวไปอย่างปริศนา ณ หอคอยเลือดแห่งนี้ชาวอังกฤษยังเชื่อว่าวิญญาณของเจ้าชายทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่ในหอคอยเลือดแห่งนี้ โดยมีการบอกเล่าปากต่อปากว่าเห็นวิญญาณของเด็กน้อยสองคนในชุดขาวจูงมือกันและเลือนหายเข้าไปในกําแพงของหอคอยเลือด ความหลอนยังไม่จบแค่นี้ เมื่อปีหนึ่งพันหกร้อยเจ็ดสิบสี่ ช่างซ่อมหอคอยได้เข้ามาซ่อมแซมและทุบบันไดหินทางใต้ของไวท์ทาวเวอร์ หรือหอคอยขาวในหอคอยแห่งลอนดอน ซึ่งคาดว่าเป็นที่ฝั่งเจ้าชายทั้งสองไว้ในอดีตก็ได้พบกับหัวกะโหลกของเด็กสองชิ้นด้วยกัน ซึ่งแม้จะพิสูจน์ไม่ได้ว่า กะโหลกทั้งสองเป็นของเจ้าชายหรือไม่ แต่ประชาชนชาวอังกฤษก็ปักเชื่ออย่างสนิทใจไปแล้ว3.วิญญาณพระนางแอน โบลิน
วิญญาณที่เราขานกันมาว่ามาปรากฏให้เห็นบ่อยๆที่หอคอยแห่งลอนดอนก็คือวิญญาณของพระนางแอน โบลิน มเหสีองค์ที่สองในพระเจ้าเฮลลี่ที่แปด ซึ่งถูกประหารชีวิตฐานคบชู้และเป็นแม่มด แน่นอนว่าช่วงยุคมืดในยุโรปมีการล่าแม่มดกันเป็นปกติ ทําให้คนดีที่ไม่ถูกใจหลายคนก็กลายเป็นแม่มด ซึ่งพระนางแอน โบลิน ก็เป็นหนึ่งในนั้น ความไม่ผิดของนางอาจจะทําให้วิญญาณวนเวียนและไม่ไปสู่สุคติ นี่คือสิ่งที่ชาวเมืองคิดและส่งต่อความเชื่อนี้ มาจนถึงปัจจุบัน เรามีการพูดถึงว่า ตอนนั้นพระเจ้าเฮนรี่ที่สองต้องการอภิเสกสมรสกับมเหสีใหม่ จึงต้องการกําจัดพระนางแอน โบลินไปให้พ้นทาง โดยจัดฉากโยนความผิดให้ พร้อมหลักฐานเท็จ แน่นอนว่าการประหารพระนางแอน โบลินก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ จุดประหารพระนางมีชื่อว่า tower green เป็นสนามหญ้าซึ่งอยู่ในเขตหอคอยแห่งลอนดอนจนถึงทุกวันนี้หลายคนมักเห็นพระนางมาปรากฏการณ์ให้เห็นแบบผีหัวขาดเคยมีเรื่องเล่ากันว่าทหารยามเห็นผู้หญิงสวมผ้าคลุมศีรษะเดินเล่นริมระเบียงที่ถูกปิดตาย แต่มีลักษณะหิ้วศีรษะไว้ในมือ ไม่ก็จะได้ยินเสียงลากโซ่ตรวนในห้องประหาร แล้วก็กรีดร้อง จนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงมีเหตุการณ์แปลกๆให้เห็นทุกคืน4.เสียงกรีดร้องอันโหยหวนของเลดี้เจน เกรย์
หลังจากการสวรรคตของพระเจ้าเฮนรี่ที่แปด ราชบัลลังก์ก็ตกอยู่ในมือของพระราชโอรส เพียงแค่ชั่วอึดใจ ไม่นานกษัตริย์องค์ใหม่ก็จากไปเช่นกัน รัชทายาทรองลงมาที่ต้องดูแลราชบัลลังก์แห่งอังกฤษต่อก็คือ เจ้าหญิงแมรี่ซึ่งมีพระราชมารดาเป็นคนสเปน จึงเกิดกระแสการคัดค้านขึ้นกับขุนนางบางฝ่าย ขุนนางที่ไม่อยากให้สเปนมามีอํานาจในแผ่นดินอังกฤษ ก็ลุกขึ้นสนับสนุนเลดี้ เจน เกรย์ สาวน้อยวัยสิบห้าปี ให้ขึ้นครองราชย์แต่หลังจากการครองราชย์เพียงเก้าวันก็เกิดรัฐประหารขึ้น โดยกลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าหญิงแมรี่ แน่นอนว่าเลดี้เจน เกรย์ ผู้ไร้เดียงสาก็ถูกนํามาประหารที่หอคอยแห่งลอนดอนความโศกเศร้าของหญิงสาวได้เปรียบเป็นเสียงกรีดร้องอันโหยหวน ดั่งกึกก้องทั่วหอคอยจนถึงทุกวันนี้ มีคนเคยพบเห็นวิญญาณของพระนามวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามเชิงเทียน ท่ามกลางแสงจันทร์และกรีดร้องด้วยความอาวรณ์ต่อชีวิตอันแสนสั้นของตัวเองอาหารโปรดของคนดังในอดีตคืออะไร?
Many people are curious about the favorite menus of celebrities in the past. These renowned figures often had unique food choices that became popular among their fans. From classic dishes like escargots and caviar to exotic options such as truffles and fois gras, these indulgent delights were frequently enjoyed by the stars of yesteryears. Exploring the culinary preferences of famous personalities offers a window into their glamorous lifestyles and palate preferences.