Thursday, 28 March 2024

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

13 Nov 2022
293

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

พระราชวังแวร์ซายส์ เป็นพระราชวังที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฝรั่งเศสที่แสดงถึงความใหญ่โตหรูหรา อีกทั้งยังประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยศิลปะสไตล์บาโรก วันนี้ iqnect จะพาไปรู้จักกับพระราชวังแวร์ซายส์ จากจุดเริ่มต้น ไปถึงจุดจบกัน

เริ่มต้นจากผืนป่า

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

 

เมื่อปีหนึ่งพันหกร้อยเจ็ด พระเจ้าอองรี (henry iv of France)ที่สี่แห่งราชวงศ์บูบง ประเทศฝรั่งเศสได้เสด็จไปที่ แวร์ซายเพื่อการล่าสัตว์ โดยมีเจ้าชายหลุยส์พระโอรสองค์โตติดตามพระองค์ไปด้วย ซึ่งขณะนั้น แวร์ซายเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่เป็นทุ่งหญ้าและป่าเขา เต็มไปด้วยสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ฟ้า หมูป่า กวาง ธรรมชาติอันงดงามและเงียบสงบที่ แห่งนี้ได้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้แก่เจ้าชายหลุยส์ เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าชายหลุยส์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา กลายเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสามแห่งฝรั่งเศส พระองค์โปรดการล่าสัตว์เป็นอย่างมาก จึงได้เสด็จมาที่แวร์ซายอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งปีหนึ่งพันหกร้อยยี่สิบสาม พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสาม ทรงตัดสินพระทัยที่จะให้มีการก่อสร้างตําหนักขึ้นมา สําหรับค้างคืนที่แวร์ซาย ซึ่งในช่วงแรกตําหนักยังคงเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ ต่อมาตําหนักก็ได้มีการก่อสร้างต่อเติม โดยใช้หินและอิฐจนกลายประสาทหรือคฤหาสน์ แต่ก็เป็นเพียงหลังเล็กๆ ไม่ได้โดดเด่นอะไร นอกจากจะเป็นตําหนักที่ประทับสําหรับการล่าสัตว์แล้ว หากพระเจ้าหลุยส์ทรงเกิดความวุ่นวายใจและต้องการประทับอยู่เงียบเงียบเพียงพระองค์เดียว แวร์ซายยังเป็นสถานที่พักผ่อนทางใจของพระองค์ตลอดรัชสมัย

ก่อร่างสร้างวัง

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสาม เสด็จสวรรคตลง พระโอรสของพระองค์ก็ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ เป็นพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่แห่งฝรั่งเศส ทรงมีพระประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่เป็นศูนย์กลางทางการปกครอง ซึ่งในขณะนั้นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ฝรั่งเศสคือพระราชวัง tuileries palace ที่ปารีส พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ทรงระลึกได้ว่าเมื่อปีหนึ่งพันหกร้อยสี่สิบเอ็ดขณะที่พระองค์ยังเยาว์วัยพระบิดาได้ทรงพระองค์และพระอนุชาไปประทับอยู่ที่แวร์ซายเพื่อหลบหนีจากโรคฝีดาษที่กําลังระบาดอยู่ พระองค์จึงตัดสินพระทัยที่จะสร้างพระราชวังขึ้นที่แวร์ซายในปีหนึ่งพันหกร้อยหกสิบเอ็ด โดยปรับปรุงจากตําหนักเดิมของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสามที่มีอยู่แล้ว การสร้างพระราชวังแห่งใหม่นี้ต้องใช้ทรัพยากรจํานวนมหาศาล โดยใช้งบประมาณถึงห้าร้อยล้านฝั่ง คนงานกว่าสามหมื่นคน และเวลาที่ยาวนานกว่าสามสิบปีในที่สุดพระราชวังก็ก่อสร้างเสร็จแล้วมีชื่อว่า พระราชวังแวร์ซายพระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวทั้งภายนอกและภายใน มีการประดับตกแต่งสไตล์บราโลคที่เน้นความใหญ่โตอลังการและแสดงให้เห็นถึงความหรูหรา

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

มีพื้นที่ประมาณแปดจุดหนึ่งห้าตารางกิโลเมตร ภายในพระราชวังประกอบด้วยงานศิลปะมากมาย ทั้งภาพวาด รูปสลักต่างๆที่นี่มีจํานวนห้องทั้งหมดเจ็ดร้อยห้อง นอกจากห้องบรรทมและห้องเสวยแล้ว ที่นี่ยังมีห้องสมุด รวมบุคลากร ห้องภาวนา ซาลอน ซึ่งเป็นห้องสําหรับพบปะกันในกลุ่มชนชั้นสูงและห้องกระจกที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระจกจํานวนมาก ส่วนภายนอกพระราชวังก็ประกอบไปด้วยอุทยาน น้ำพุและทะเลสาบจําลอง อีกทั้งยังร่มรื่นด้วยป่าไม้สีเขียวองค์ประกอบต่างต่างเหล่านี้ ทําให้พระราชวังแวร์ซายกลายเป็นพระราชวังที่งดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และพระราชวังแวร์ซาย ยังเป็นสถานที่ที่ฝรั่งเศสใช้รับรองทูตและแขกที่เดินทางมาจากต่างประเทศหลายครั้ง เช่น โดสแห่งเจนัว เมื่อปีหนึ่งพันหกร้อยแปดสิบห้าเอกอัครราชทูตจากสยาม ในปีหนึ่งพันหกร้อยแปดสิบหก และคณะทูตจากเปอร์เซีย เมื่อปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยสิบห้า

หรูหรารุ่งโรจน์

เมื่อพระราชวังแวร์ซายสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่พร้อมกับเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์บรรดาขุนนางในราชสํานักและเหล่าข้าราชบริพารกว่าหลายร้อยชีวิตก็ได้ย้ายจากพระราชวังเดิมไปอยู่ที่พระราชวังแวร์ซาย ซึ่งชีวิตความเป็นอยู่ภายในราชสํานักแวร์ซาย ก็เต็มไปด้วยความหรูหราองอาจและสะดวกสบาย ที่นี่เต็มไปด้วยคนรับใช้ องครักษ์ และคณะแพทย์ที่คอยดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัยให้แก่พระราชวงศ์ อาหารอันเลิศรสที่ปรุงโดยพ่อครัวฝีมือเยี่ยม ความบันเทิงที่ได้รับจากงานเลี้ยงรื่นเริงและบุคลากรที่ขับร้องอย่างไพเราะ เสื้อผ้าและเครื่องประดับที่มีให้สวมใส่อย่างมากมาย อย่างไรก็ตามเหล่าพระราชวงศ์ไม่ได้มีเวลาที่เป็นส่วนตัวเลย ไม่ว่าจะทําอะไรหรือประทับอยู่ที่ใดก็ต้องมีผู้คนอยู่ล้อมรอบตลอดเวลา ซึ่งยังไม่รวมถึงบางคนที่ต้องการความสนใจจากพระราชวงศ์ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นระบบสุขาภิบาลภายในพระราชวังแวร์ซายยังเลวร้ายมากที่นี่ไม่มีห้องน้ำ

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

หากต้องการทําธุระส่วนตัวก็ต้องไปที่กําแพง และในศตวรรษที่สิบเจ็ดก็มีค่านิยมว่า น้ำเป็นศูนย์รวมของความสกปรก และทําให้ร่างกายนั้นอ่อนแอ ผู้คนในแวร์ซายจึงไม่ค่อยอาบน้ำ น้ำหอมจึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อดับกลิ่นจากร่างกาย กิจวัตรประจําวันของกษัตริย์ก็เต็มไปด้วยพิธีการมากมายหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตื่นบรรทม เสวยพระกระยาหารทั้งสามมื้อ เสด็จไปมิสซาที่โบสถ์ภายในพระราชวัง ประชุมร่วมกับสภาต่างๆลงพระนามในเอกสารที่เตรียมไว้โดยราชเลขา พบปะสนทนากับผู้คนในราชสํานัก จนกระทั่งบรรทมเหลือเวลาให้กับครอบครัวและตัวพระองค์เองเพียงน้อยนิด ส่วนพระราชินีก็ได้รับความคาดหวังว่าต้องมีบุตรให้ได้มากที่สุดเพื่อที่พระโอรสจะได้เป็นรัชทายาท ส่วนพระธิดาเมื่อเจริญวัยก็จะถูกส่งไปอภิเษกสมรสกับกษัตริย์หรือเจ้าชายที่ต่างเมือง ทําให้เห็นว่าชีวิตภายในราชสํานักแวร์ซายถึงแม้ว่าจะหรูหราและสะดวกสบายแต่ด้วยค่านิยมที่เน้นเรื่องพิธีการก็สร้างความอึดอัดและกดดันให้แก่ผู้คนในราชสํานักไม่น้อย

สิ้นสุดราชวงศ์

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

งบที่ใช้สร้างพระราชวังแวร์ซาย เป็นเงินที่ได้มาจากภาษีประชาชน และภาษีก็ยังถูกนําไปเปรอะเปรอะชนชั้นสูงให้มีความเป็นอยู่ที่หรูหราสะดวกสบาย ขัดกับความเป็นอยู่ของประชาชนที่เริ่มยากจนลงเรื่อยๆไปกว่านั้น พระเจ้าหลุยส์ที่สิบหกแห่งฝรั่งเศสยังได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการปฏิวัติอเมริกา โดยให้ความช่วยเหลือกับอเมริกาในการทําสงครามประกาศอิสรภาพจากอังกฤษที่เป็นศัตรูกับฝรั่งเศส ซึ่งต้องใช้ค่าใช้จ่ายเป็นจํานวนมาก ก็ยิ่งทําให้ประชาชนชาวฝรั่งเศสนั้นเกิดความยากจนมากขึ้นไปอีก จนไม่มีเงินแม้จะซื้อขนมปังที่เป็นอาหารหลักเลยด้วยซ้ำ ประชาชนไม่พอใจที่เหล่าราชวงศ์และชนชั้นสูง มัวแต่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่สนใจว่าประชาชนกําลังตกกระกําลําบาก

แวร์ซายส์ จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์สู่จุดจบราชวงศ์ฝรั่งเศส

โดยเฉพาะพระนางมารี อองโตเนต มเหสีของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ที่ได้รับความเกลียดชังจากประชาชนชาวฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก ชาวฝรั่งเศสจึงคิดที่จะล้มล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในเดือนตุลาคมปีหนึ่งพันเก้าร้อยแปดสิบเก้า กลุ่มผู้หญิงชาวปารีสกว่าเจ็ดพันคนได้เดินขบวนประท้วงไปที่พระราชวังแวร์ซายมีผู้คนเข้าร่วมการประท้วงครั้งนี้มากมาย กองทัพประชาชนที่โกรธแค้นได้บุกเข้าไปในพระราชวังแวร์ซาย จนเหล่าราชวงศ์ต้องย้ายไปประทับอยู่ที่พระราชวัง tuileries palace จนกระทั่งในปีหนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบสอง การปฏิวัติฝรั่งเศสก็เป็นผลสําเร็จประเทศฝรั่งเศสกลายเป็นสาธารณรัฐ ระบอบกษัตริย์ที่มีมายาวนานหลายร้อยปีก็ได้สิ้นสุดลง พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่และพระนางมารี อองโตเนต ถูกประหารชีวิตด้วยกีโยธิน พระราชวังแวร์ซายก็ถูกทิ้งร้าง ภาพวาดต่างๆถูกนําไปไว้ที่พระราชวัง Louvre ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็ถูกประมูลและกระจัดกระจายออกไป ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายส์ มีฐานะเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของฝรั่งเศส ผู้ที่มาชมพระราชวังแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงามของศิลปะได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสผ่านสถานที่แห่งนี้อีกด้วย